วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Recorded Diary 15 september 24.2015





1.The knowledge gained ( ความรู้ที่ได้รับ)

( เพื่อนสรุปบทความ  วิจัย และโทรทัศน์ครู หน้าชั้นเรียน )






นางสาว ชนาภา  คะปัญญา  เลขที่3  บทความเรื่อง  การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ปฐมวัย 

      การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ควรเน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางเปิดโอกาสให้เด็กมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมมีประสบการณ์ตรง ได้ลงมือปฏิบัติจริงโดยมีครูเป็นผู้ตอบสนองความสนในของเด็กและส่งเสริมการจัดโครงสร้างความคิดจากประสบการณ์ เพื่อพัฒนามุมมองและความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงการส่งเสริมทัศนคติเกี่ยวกับการดูแลและมีความรับผิดชอบที่รักษาสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว
เป้าหมายสำคัญในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์
1.แสดงความตระหนักรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้นผ่านการลงมือปฏิบัติ
 การสำรวจ การสังเกต การตั้งคำถาม และการแลกเปลี่ยนสิ่งที่ค้นพบ 
2.ดำเนินการสืบเสาะหาความรู้อย่างๆด้วยตนเอง อย่างเสรีและตามที่กำหนดให้ 
3.แสดงความเข้าใจและรู้จักดูแลรักษาธรรมชาติ 
4.สืบค้นและสนทนาเกี่ยวกับลักษณะและองค์ประกอบของสิ่งต่างและใช้สิ่งเหล่านั้นได้อย่างปลอดภัย 
5.รู้และสามารถใช้สิ่งของที่เป็นเทคโนโลยีอย่างง่ายๆได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย 
6.เพื่อให้มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ 
ตัวอย่างเหมาะสมตามวัย 
กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544 มี3 ประการดังนี้ 
1.ขอบเขตเนื้อหาวิทยาศาสตร์ 
2.ความเหมาะสมต่อพัฒนาการและความสามารถในการเรียนรู้ของเด็ก 
3.สามารถนำไปปฏิบัติจริงได้ 
บทบาทการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ระดับปฐมวัย 
1.การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ระดับปฐมวัย ช่วยให้เด็กได้พัฒนาความตระหนักรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในโลกรอบตัว  ของตนเองอย่างเหมาะสม 
2.การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ระดับปฐมวัย ช่วยให้เด็กได้พัฒนาคุณลักษณะตามวัยที่สำคัญ 4 ด้านได้แก่ ด้านร่างกาย  ด้านอารมณ์และจิตใจ ด้านสังคม ด้านสติปัญญา
3.การเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ระดับปฐมวัย ช่วยให้เด็กได้มีโอกาสใช้จิตนาการและความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์






 นางสาว รัชดา   เทพรียน เลขที่ 5
เรื่อง  หลักสูตรวิทยาศาสตร์ปฐมวัยมีความจำเป็นหรือไม่

หลักสูตรวิทยาศาสตร์ปฐมวัยมีความจำเป็นหรือไม่”  
เป็นคำถามที่นักการศึกษาและผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับด้านปฐมวัยในประเทศสอบถามมากมาย 
     การเยี่ยมชมโรงเรียนปฐมวัยทุกสังกัดทั่วประเทศ ระหว่างปี พ.ศ.2548 – 2549  พบว่าครูปฐมวัยได้สอนวิทยาศาสตร์ในเชิงเนื้อหาโดยผ่านการบอกเล่า  มากกว่าที่จะให้เด็กได้เรียนรู้ตามธรรมชาติของเด็กที่มีความอยากรู้อยากเห็น และมีความกระตือรือร้นที่จะสำรวจตรวจสอบหาคำตอบเนื้อหาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ที่ครูสอนถูกแนวคิด (concept) บ้างไม่ถูกบ้าง และจากการสัมภาษณ์ครูถึงเเนวทางการสอนวิทยาศาสตร์ของครู  สสวท.  จึงได้รวบรวมข้อคิดเห็นเหล่านี้   และได้ตั้งคณะทำงานมาร่วมวิเคราะห์หลักสูตรปฐมวัยปี พ.ศ.2546   เมื่อเสร็จแล้วได้นำกรอบมาตรฐานนี้ไปทำประชาพิจารณ์ทั่วประเทศ

        





นางสาว เปมิกา ชุติมาสวรรค์  เลขที่ 4
เรื่อง   วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย  

          วิทยาศาสตร์เป็นการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเรา ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ส่งผลให้เราสามารถดูแลสุขภาพได้ดีขึ้นและมีความเข้าใจเกี่ยวกับการโภชนาการ ผลจากการแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ทำให้เรามีความเป็นอยู่อย่างสะดวกสบาย เช่นเราจะรู้สึกว่าไม่มีความสุขหากอากาศร้อนมากวิทยาศาสตร์ช่วยให้เรามีพัดลมหรือแอร์ เราได้รับความบันเทิงทางเทคโนโลยีเช่นทีวี วิทยุ เด็กเล็กๆมีธรรมชาติที่เป็นผู้ความอยากรู้อยากเห็น ชอบใช้คำถามว่า ทำไม อย่างไร
       การแสวงหาความรู้จากสิ่งต่างๆรอบตัวเขาและเริ่มเข้าใจสภาพแวดล้อมที่เขาอาศัยอยู่ เด็กสามารถสังเกตและสื่อสารเกี่ยวเรื่องดิน หิน อากาศและท้องฟ้า เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุ พลังงานจากแม่เหล็ก แสงและเสียง เด็กสามารถสำรวจลักษณะของน้ำและความร้อน สิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กปฐมวัยเริ่มการทำงานทางวิทยาศาสตร์ เด็กสามารถแก้ปัญหาต่างๆโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการเรียนรู้เรื่องอื่นๆได้






นางสาว  ประภัสสร  คำบอนพิทักษ์  เลขที่ 2
วิจัย  ชื่อการพัฒนากระบวนการวิทยาศาสตร์พื้นฐานของเด็กปฐมวัย

โดยการใช้รูปแบบกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ 

วัตถุประสงค์

1.เพื่อศึกษาระดับการพัฒนาของทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์พื้นฐานของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์โดยใช้รูปแบบกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้

2.เพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์พื้นฐานของเด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการจัด
ประสบการณ์โดยใช้รูปแบบกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้

สมมติฐาน 

เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมรูปและศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้มีการพัฒนาทักษะ
กระบวนการวิทยาศาสตร์หลังจากการทดลองสูงกว่าก่อนทดลอง

กลุ่มตัวอย่าง คือ เด็กอายุ 5-6 ปี ร.ร.สามเสนนอก กทม. จำนวน 15 คน 
ระยะเวลาในการทดลอง 8 สัปดาห์  สัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 40 นาที

วิธีดำเนินการวิจัย
1.กำหนดประชากรและการสุ่มตัวอย่าง

2.การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
3.เก็บรวบรวมข้อมูล
4.ทำการวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
1. แผนการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ จำนวน 24 เรื่อง
 เช่น รถ ผักผลไม้ อาหาร
2. แบบการประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์พื้นฐานสำหรบเด็กปฐมวัย

ผลการวิจัย
     จากผลการศึกษา พบว่า เด็กปฐมวัยก่อนการทดลองและหลังการทดลองมีการพัฒนากระบวนการวิทยาศาสตร์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่รับ 0.1 และอยู่ในระดับดีทุกทักษะโดยเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการทดลองเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้แสดงให้เห็นว่า การจัดประสบการณ์กิจกรรมรูปแบบศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ส่งผลให้เด็กปฐมวัยมีทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์สูงขึ้น

นำเสนอโทรทัศน์ครู
นางสาว  กรกช  เดชประเสริฐ   เลขที่ 8
เรื่อง  พัฒนาการการสังเกตเป็นพื้นฐานที่สำคัญทางวิทยาศาสตร์
เรื่องไข่เเละเรื่องน้ำมัน

-  ครูร้องเพลง "ไก่ย่างถูกเผา" เพื่อนำเข้ากิจกรรม 
ครูให้เด็กสังเกตไข่ที่ครูนำมา 2 ใบ แล้วตั้งคำถามว่าถ้าคุณครูโยนจะเกิดอะไรขึ้น 
เมื่อคุณครูโยน ปรากฎว่าไข่ร้าว เด็กจึงบอกว่า ที่ร้าวเพราะไข่นั้นเป็นไข่ต้ม

- น้ำมัน ครูให้เด็ก ๆ สังเกตน้ำมัน 2 ชนิด สังเกตสี และกลิ่น
จากนั้นครูให้เด็ก ๆ นำน้ำมันพืชทาลงบนกระดาษ 1 แผ่น แล้วสังเกต ต่อไปนำน้ำมันหมูทาลงบนกระดาษแล้วสังเกต จากนั้นนำ 2 แผ่นมาเปรียบเทียบกัน ว่ามีอะไรเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร




2.skills (ทักษะ)

ทักษะการตีความในการฟังบทความเพื่อให้ได้ใจความและเกิดความเข้าใจการจับประเด็นสำคัญๆการตั้งคำถาม การตอบคำถามที่ครูถามได้อย่างชัดเจนและถูกต้อง


3.Apply(การประยุกต์ใช้)
  นำบทความหรือโทรทัศน์ครูหรืองานวิจัยที่เพื่อนนำเสนอนำไปเป็นแนวทางที่เราจะนำไปจัดกิจกรรมแผนในการเรียนการสอนเพื่อบูรณาการได้ในอนาคตเป็นเนวทางที่เราจะจัดกิจกรรม

4.technique  (เทคนิคที่อาจารย์ใช้สอน)
การถามประสบการณ์ดิมลนำมาเชื่อมโยงกับความรู้ใหม่ การใช้คำถาม เพื่อให้นักศึกษาได้คิดพิจารณาอย่างมีเหตุผล การจับประเด็นที่เป็นประโยชน์และสำคัญๆเพื่อให้เกิดความเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น





5. assessment (ประเมิน)

ตัวเอง      แต่งกายเรียบร้อย เข้าเรียนตรงเวลามีส่วนร่วมในการตอบคำถาม

เพื่อน        แต่งกายเรียบร้อย เข้าเรียนตรงเวลา เพื่อนๆช่วยกันระดมความคิดเเละพยายามช่วยกันรวบรวมคำพูดเพื่อให้ได้คำตอบที่สมบูรณ์

อาจารย์     เเต่งกายสุภาพ เข้าสอนตรงเวลา สอนให้ความรู้อย่างเต็มที่ ฝึกให้เราได้ใช้ความคิดเเละการหาคำตอบ ส่งเสริมให้ทุกคนมีส่วนร่วมในห้องเรียน

ห้องเรียน    ห้องเรียนสะอาด เก้าอี้เพียงพอต่อนักศึกษา











มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2558 (National Science and Technology Fair)



มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2558
(National Science and Technology Fair)
ณ ชาเลนเจอร์อิมแพ็ค เมืองทองธานี


The knowledge gained ( ความรู้ที่ได้รับ)

ของเล่นกับพัฒนาการเด็กไทย ของเล่นไม่ใช่เพียงแค่เรื่องเล่น ๆ ของ เล่นนับเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่มีส่วนสำคัญในการสร้างทักษะและพัฒนาร่างกาย สมองส่วนต่าง ๆ ช่วยเสริมสร้างจินตนาการของเด็ก และการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ผู้ปกครองกับเด็ก ๆนอกจากการ เล่นของเล่นจะให้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน ช่วยให้เด็กอารมณ์ดีเบิกบานแล้ว การเล่นของเล่นยังช่วยเสริมความคิดสร้างสรรค์ สร้างจินตนาการ และฝึกทักษะในการใช้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยพัฒนาศักยภาพของเด็ก ๆ ในด้านต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ การเล่นและของเล่นสำหรับเด็กใน ช่วงปฐมวัยมีความหมายและความสำคัญต่อชีวิตเด็ก ๆ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประสบการณ์ที่เด็กได้รับจากการเล่นกับผู้คนหรือของเล่น ถือเป็นรากฐานที่สะสมเป็นพื้นฐานการเรียนรู้ที่ซับซ้อนมากขึ้นในช่วงวัยต่อ ๆ มา

ความคิดสร้างสรรค์จากการเล่น
ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่มีอยู่ภายในตัวบุคคลไม่ใช่เรื่องไกลตัวหรือเกินความสามารถที่จะมีได้แต่เป็นสิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในทักษะการใช้ชีวิตประจำวันโดยเฉพาะความอยากรู้และการลงมือกระทำเช่นการเล่นของเล่นสามารถสร้าจินตนาการให้กับเด็ก ความคิดสร้างสรรค์ของคนเรามีหลายระดับ เช่น
1. การใช้จินตนาการเพื่อถ่ายทอดหรือแสดงความคิดความรู้สึกของตน เช่น การวาดภาพ
2. การประดิษฐ์และสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะหรือวิทยาศาสตร์ภายใต้กรอบกฎเกณฑ์หรือสิ่งที่กำหนดให้
3. การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆการพัฒนาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เกิดนวัตกรรมที่ต้องอาศัยการคิดอย่างเป็นระบบ
4. การสร้างสรรค์หลักการแนวคิดใหม่ๆที่ส่งผลต่อการพัฒนาและความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆต้องใช้ทักษะการคิดที่เป็นระบบและซับซ้อนมากขึ้นเช่นระบบการสื่อสารการบินหรือการเดินทางไปสู่อวกาศ


                           


                 

                

จุดประกายเด็กคิดนอกกรอบ ....สนุกคิดกับของเล่นวิทยาศาสตร์

1.หมุนพาเพลิน  (Spin for fun)
ปั่นลูกข่างสร้างด้วยมือหรือใช้เชือก เหวี่ยงลูกข่างสร้างมูลที่มีแกนกลางขนาดเล็กตัวลูกข่ามีน้ำหนักมากทำให้มีความเฉื่อยจึงหมุนได้นานและขณะหมุนเกิดแรงที่ตั้งกับทิศทางหมุนจึงทำให้ลูกค้าข่างส่งตัวอยู่ได้








2.หยุดไม่อยู่ (Unstopable)ทำไมกำหมุนจึงหมุนอย่างต่อเนื่อง
(What maker the ratator spain continuously?)
เมื่อเราดึงเชือกที่ยึดติดกับแกนกลางใบพัดจะทำให้ใบพัดหมุนเมื่อปล่อยมือใบพัดจะหมุนอย่างต่อเนื่องเพราะความเฉื่อยเมื่อดึงแล้วผ่อนเป็นจังหวะใบพัดจากเคลื่อนที่ต่อเนื่องตลอดเวลาซึ่งเกิดจากพลังงานความเฉื่อยนั่นคือการที่วัตถุรักษาสภาพการหมุนอย่าง ต่อเนื่องหลักของการกรรมมูลนี้ใช้หลักเดียวกันกับการปั่นจักรยานแล้วปล่อยให้รอหมุนโดยไม่ต้องถีบแต่จักรยานก็จากเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้สักพักโดยไม่ต้องถีบ








3.ความลับของแรงโน้มถ่วง(A secret of gravity)

นกบินและปลาว่ายน้ำเคลื่อนที่ลงมาได้อย่างไรแรงโน้มถ่วงเป็นแรงที่โลกดึงดูดวัตถุด้วยความเร่งเท่ากัน

(9.8 เมตร/วินาที)นกบินและปลาว่ายน้ำตกลงมาแต่มีแรงเสียดทานระหว่างเส้นเอ็นกับปากนกและปลาทำให้ตกช้าลง จึงคล้ายกับนกยินแบะปลาว่ายน้ำ






4.ดึ๋งดั๋งพลังสปริง (Bouncy spring)


นกบินและปลาว่ายน้ำเคลื่อนที่ลงมาได้อย่างไรแรงโน้มถ่วงเป็นแรงที่โลกดึงดูดวัตถุด้วยความเร่งเท่ากัน
(9.8 เมตร/วินาที)นกบินและปลาว่ายน้ำตกลงมาแต่มีแรงเสียดทานระหว่างเส้นเอ็นกับปากนกและปลาทำให้ตกช้าลง จึงคล้ายกับนกยินแบะปลาว่ายน้ำหนอนดินและหนูกะลาวิ่งได้อย่างไรเมื่อดึงเชือกหนอนดินและหนูกะลาหนังยางจะบิดเป็นเกลียวทำให้หนอนและหนูวิ่งไปข้างหน้าเมื่อผ่อนเชือกหนังอย่างจะคลายตัวแล้ววิ่งถอยหลังการบิดเป็นเกลียวของหนังยางเป็นหลักการเดียวกันของการทำงานของเกี่ยวสปิงคือเมื่อสปิงหดตัวจะเก็บพลังงานไว้เรียกว่า พลังงานศักย์ เมื่อสปิงขายตัวจากเปลี่ยนเป็นพลังงานในการเคลื่อนที่ที่เรียกว่า พลังงานจลน์










https://z-1-scontent.xx.fbcdn.net/hphotos-xaf1/v/t34.0-12/12277191_807200162759863_1372156931_n.jpg?oh=a9eb96be69f7b097f69266158f306a2b&oe=5653DAB8
https://z-1-scontent.xx.fbcdn.net/hphotos-xaf1/v/t34.0-12/12277191_807200162759863_1372156931_n.jpg?oh=a9eb96be69f7b097f69266158f306a2b&oe=5653DAB85.จักจั่นจึงเกิดเสียง
ทำไมแค่เหวี่ยงจักจั่นจึงเกิดเสียงเสียงของจักจั่นเกิดจากการสั่นสะเทือนของเชือกที่เสียดสี
กับยางสนปลายแกนไม้ส่งต่อไปยังแผ่นกระดาษแล้วทำให้อากาศภายในกระบอกที่ทำหน้าที่เป็นกล่องเสียงสั่นด้วยความถี่ที่เท่ากันกับการวิจารณ์ของเชือก
เสียงจะเป็นอย่างไร
*ถ้าไม่มีกระบอก

*เสียงกระบอกขนาดต่างกัน








6.แรงยกจอมพลัง(Powerful force)
คอปเตอร์ไม้ไผ่และกำหมุน ลอยได้อย่างไรใบพัดของคอปเตอร์ไม้ไผ่แล้วกำหมุนบินออกแบบเป็นเกลียว
อีกด้านเชิดขึ้นอีกด้านจะเชิดลงคล้ายเกลียวเมื่อใบพัดหมุนใบทั้งสองด้านจัดการอากาศลงเกิดแรงยกตัว เหมือนกับการยุบตัวของใบพัดเฮลิคอปตอร์เครื่องบินและว่าวที่ออกแบบให้ปีกเอียง

 ***ขึ้นหรือลง        *ถ้าหมุนกลับทิศ
                              *ถ้าเอาใบพัดอยู่ข้างล่าง





7.เฮลิคอปเตอร์บินเฮลิคอปเตอร์บินได้อย่างไร

บินได้โดยใช้แรงยกจากลมที่เกิดใบพัดที่หมุนเรียกว่า
แรงดันใต้ปีก
ได้กล่าวแล้วว่าปีกซึ่งหมุนอยู่เหนือลำตัวด้วยกำลังเครื่องยนต์ทำหน้าที่ให้แรงยกในทิศทาง ตั้งฉากกับพื้น การเคลื่อนที่ไปข้างหน้าทำได้ด้วยการเอียงระนาบของปีกหมุนไปข้างหน้าและแตกแรงยกซึ่ง กำลังฉุดเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปในทิศทางตั้งฉากกับพื้นออกเป็นสองแรง คือ แรงยกซึ่งยังคงตั้งฉาก กับระนาบของปีกหมุนอยู่ตลอดเวลากับแรงฉุดไปข้างหน้า ระนาบของปีกหมุนอาจจะถูกบังคับให้เอียงไปทางใดก็ได้รอบตัว ฉะนั้นเฮลิคอปเตอร์ จึงมีแรงฉุดให้สามารถเคลื่อนที่ไปได้ทุกทิศ ไม่ว่าจะเป็นทางหน้า ทางข้าง และแม้แต่ถอยหลัง